ต้องยอมรับว่าในยุคนี้ผลิตภัณฑ์ที่ทำจากพลาสติกกลายเป็นสิ่งสำคัญในชีวิตประจำวันไปเป็นที่เรียบร้อย สังเกตได้ง่ายที่สุดก็คือแค่เรามองไปยังสิ่งต่างๆ รอบตัวก็จะเห็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่ทำจากพลาสติกมากมายรายล้อมเราเต็มไปหมด ไม่ว่าจะเป็นวัสดุที่มีขนาดเล็ก อาทิ ถุงพลาสติก ไปจนถึงอุปกรณ์ขนาดใหญ่ อาทิ พัดลม, เครื่องดูดฝุ่น เมื่อเป็นเช่นนี้จึงปฏิเสธไม่ได้ว่าพลาสติกกลายเป็นสิ่งสำคัญสำหรับคนในยุคนี้ไปเป็นที่เรียบร้อย แก้วน้ำเองก็เป็นวัสดุอีกชนิดที่มีการผลิตขึ้นมาจากพลาสติกด้วยเช่นเดียวกัน
ความปลอดภัยของการใช้แก้วพลาสติก
หากจะบอกว่าพลาสติกประเภทไหนที่สามารถนำมาผลิตเป็นแก้วน้ำได้ก็ต้องบอกเลยว่าพลาสติกแทบทุกชนิดสามารถที่จะผลิตออกมาเป็นแก้วเพื่อใช้งานได้แทบทั้งสิ้น คุณสมบัติ คุณภาพ ก็ไม่ได้มีความแตกต่างกันมากนักแต่ประเด็นสำคัญที่สุดก็คือสารชนิดต่างๆ ที่ผสมอยู่ในพลาสติกนี่เองที่เป็นตัวการสำคัญสำหรับการบ่งบอกได้ว่ามีความปลอดภัยในการใช้งานมากน้อยแค่ไหน หลักๆ ของสารที่อยู่ในถุงพลาสติกคือไฮโดรคาร์บอนที่หากเราใช้งานพลาสติกเหล่านี้ไปนานโอกาสที่จะทำให้เกิดความเสี่ยงต่อร่างกายมีสูงมากโดยเฉพาะเรื่องของโรคมะเร็ง แม้บางคนบอกว่าการดื่มน้ำจากแก้วพลาสติกไม่ได้เป็นการนำพลาสติกไปผ่านความร้อนความอันตรายจะน้อยกว่าหรือไม่ จริงๆ แล้วมันไม่ใช่อยู่ที่ว่าอันตรายน้อยหรือมากกว่ากัน แต่มันอยู่ที่ว่าพฤติกรรมในการใช้เป็นอย่างไรมากกว่า เคยมีผลวิจัยทางวิทยาศาสตร์ทั้งจากในสหรัฐฯ และอังกฤษ ระบุเอาไว้อย่างชัดเจนว่า สารเคมีที่อยู่ในพลาสติกก่อให้เกิดโรคเบาหวาน หัวใจ และโรคไตบางชนิด นอกจากนี้ยังเป็นอันตรายต่อการพัฒนาของต่อมลูกหมากและสมอง ก่อให้เกิดภาวะสุ่มเสี่ยงต่อทารกในครรภ์ สารดังกล่าวมีชื่อว่า สารบิสฟีนอล เอ หรือ บีพีเอ นอกจากนี้พฤติกรรมการใช้อย่างผิดๆ เหมือนที่กล่าวเอาไว้ในตอนแรกไม่ว่าจะเป็นการนำเอาแก้วพลาสติกกลับมาใช้ใหม่บ่อยๆ หรือปล่อยให้ถูกแสงแดดเอาไว้นานๆ จะทำให้กระบวนการบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับสารเคมีในพลาสติกสลายตัว เกิดการละลายปนเปื้อนไปกับน้ำดื่มที่เราดื่มเข้าไปส่งผลให้เป็นการสะสมเชื้อมะเร็งในร่างกายของเรานั่นเอง
อย่างที่ทราบกันดีตั้งแต่ต้นว่าแม้แก้วพลาสติกจะเป็นวัสดุที่ทำให้เราใช้งานได้อย่างสะดวกสบายมากขึ้น แต่ถ้าหากว่าใช้ในแนวทางที่ไม่เหมาะสมมันก็ย่อมส่งผลร้ายต่อร่างกายเราได้อย่างแน่นอน เหตุเพราะยังไงเสียมันก็คือสารเคมีประเภทหนึ่งที่ถูกผลิตขึ้นมานั่นเอง ทางที่ดีก็คือควรหลีกเลี่ยงให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและความสุขที่จะไม่ก่อให้เกิดโรคต่างๆ ตามมาในภายหลัง